พิธีปลุกเสก
พิธีปลุกเสกใช้วิธีอัญเชิญเทพและเทวดา ฤาษี พระสงฆ์ผู้ทรงศีลและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในเมืองพิษณุโลกอันได้แก่ หลวงพ่อพระพุทธชินราชเป็นต้น ปลุกเสกกันที่วัดพระศรีรัตนมหาธาตุฯ
พระเกจิอาจารย์ในสมัยโบราณ ส่วนมากท่านจะมีเวทมนต์คาถาขลังและศักดิ์สิทธิ์ถึงขั้นพิสูจน์เป็นรูปธรรมได้ มาถึงยุคกรุงรัตน์โกสินทร์ ก็มีหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า เสกใบมะขาม ให้เป็นผึ้งเป็นต่อไล่ต่อยศัตรู หลวงปู่ทวด วัดช้างไห้ เหยียบน้ำทะเลจืด หลวงพ่อลี ฉันทโก วัดภูน้ำเกลี้ยง เสกของให้คนกินแล้วรักใคร่หลงใหลกัน หลวงพ่อเกลี้ยง เมตตาธิคุณ วัดตะกู ปืนยิงไม่ออก มีดฟันไม่เข้า และอาจารย์วัลลภ ธรรมบันดาล เรียกสาลิกา ลิ้นทอง ลงมาช่วยผู้คนให้มีเสน่ห์ เมตตามหานิยม ค้าขายดี มีโชคลาภได้ เป็นต้น
ดูตามประวัติการปลุกเสกวัตถุมงคลของพระเกจิอาจารย์ดังๆ ในสมัยโบราณจะพบว่าท่านปลุกเสกเดี่ยวกันทั้งนั้น ปัจจุบันก็ยังมีพระเกจิอาจารย์ที่เคร่งครัด ถึงกับไม่ไปนั่งทำพิธีปลุกเสก รวมกับพระเกจิอาจารย์จำนวนมากๆที่ไหน เพระกลัวไปนั่งทำพิธีรวมกับพระเกจิอาจารย์บางรูป ที่อาบัติถึงขั้นปาราชิกไปแล้ว
คำยืนยัน
พระเกจิอาจารย์อย่างเช่น หลวงพ่อน้อย วัดธรรมศาลา หลวงพ่อเปิ่น วัดบางพระ หลวงปู่โง่น สรโย หลวงพ่ออุตมะ วัดวังวิเวการาม หลวงพ่อเกษม เขมโก หลวงพ่อลี ฉันทโก วัดภูน้าเกลี้ยง หลวงพ่อพูล วัดไผ่ล้อม หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม หลวงพ่อแย้ม วัดตะเคียน ท่าน บอกว่า พระที่อาบัติถึงขั้นปาราชิกไปแล้ว ถ้าไปเข้าทำพิธีอะไร พิธีนั้น วัตถุมงคลนั้น พระเกจิ อาจารย์ในพิธีนั้น จะเสื่อมความขลังและความศักดิ์สิทธิ์ตามไปด้วย
พระเกจิอาจารย์ที่เคร่งครัดจริงๆ ท่านจึงพยายามหลีกเลี่ยงไม่เสี่ยงไปร่วมพิธีปลุกเสกใน งานที่มีพระเกจิอาจารย์จำนวนมากๆกัน
เรื่องนี้จะจริงหรือไม่จริงไม่ทราบได้ แต่สังเกตดูการปลุกเสกในยุคปัจจุบัน ไม่ปรากฏความขลังและความศักดิ์สิทธิ์อะไร ให้ผู้คนพิสูจน์ได้เด่นชัดเหมือนในอดีต ดังนั้นพระกรุเก่าแก่ในชุดเบญจภาคีทุกองค์ ผ่านการปลุกเสกเดี่ยวโดยพระเกจิอาจารย์สมัยโบราณ ที่มีความขลังและความศักดิ์สิทธิ์จริงๆมาแล้ว จึงสมควรที่จะนำมาสะสมไว้เป็นสมบัติของลูกหลานต่อไป